ประวัติทหารเสริมกำลังพิเศษ
ประวัติทหารเสริมกำลังพิเศษ
ในราวปี พ.ศ.๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรการประกอบอาชีพ และความเป็นอยู่ของราษฎรในภูมิภาคต่างๆอยู่เสมอ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับพระราชทานพระราชดำริ หรือโครงการ ในการส่งเสริมการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของพสกนิกรให้ดีขึ้น แต่ละท้องที่ถิ่นทุรกันดาร ล้วนเสี่ยงภัยอันตรายเกือบทั้งสิ้น
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้นายทหารที่มีประวัติการรบจากสงครามเวียดนาม และการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งเคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญกล้าหาญและเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น ๑ เข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามเสด็จไปปฏิบัติงานถวาย ทั้งในหน้าที่การถวายความปลอดภัย และการแก้ปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ในพื้นที่ หรือในขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.๒๕๑๕ ในคราวเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นต้นมา
เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นเกิดความวุ่นวาย และเกิดปัญหาหลายด้าน อันกระทบต่อความมั่นคง เช่น ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ และการต่อต้านรัฐบาลของเหล่านิสิต นักศึกษา ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ประชาชน และนิสิต นักศึกษาจำนวนมาก ได้รวมตัวกันชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่รัฐบาลในยุคนั้น โดยใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถานที่ทำการ จึงถูกปิดล้อมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐให้อยู่แต่ภายใน มธ. จนเกิดความกดดัน มีฝูงคนกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คนได้เดินขบวนมายังพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเพื่อขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยเหลือ จนทำให้เกิดการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามเส้นทางเรื่อยมา แต่ไม่สามารถยับยั้งกลุ่มฝูงชนเหล่านั้นได้ เสียงคนล้อมวังดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณพระตำหนักฯ
เวลานั้นผู้ที่ถวายอารักขาและกำลังทหารในการรักษาความปลอดภัยมีจำนวนน้อยมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงเรียก ทหารที่มีผลการรบดีเด่น (ได้รับเหรียญรามา) เช่นพ.ท.ณรงค์เดช, พ.อ.ยิ่งยศ, พล.ท.กสิน, พ.อ.วุฒิ และทหารที่ทรงคุ้นเคย (ทหารมหาดเล็ก) เข้ามาถวายงานเพิ่มเติม และทรงพระราชทานนามว่า “นายทหารเสริมกำลังพิเศษ” หน่วยจึงได้ยึดถือเอาปี พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นปีก่อตั้งหน่วยขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ต้องการให้ทหารที่รักษาวังใช้ความรุนแรงกับประชาชน นั่นคือทรงให้ทหารถอดซองกระสุนออกจากตัวปืน จนกระทั่งเหตุการณ์คลี่คลายลงในเวลาต่อมา
การปฏิบัติงานของนายทหารเสริมกำลังพิเศษในขณะนั้น จะเป็นการปฏิบัติงานตามที่พระองค์รับสั่งโดยทรงให้ปฏิบัติงานเสริมให้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในระยะแรกยังไม่มีการก่อตั้งหน่วยงานที่ชัดเจนนัก ต่อมาพระองค์ทรงให้ กรมราชองครักษ์เข้ามาดูแล จึงทำให้หน่วยงานทหารเสริมฯ ได้ก่อตั้งขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และได้รับการสนับสนุนด้านต่างๆ มากขึ้นตามลำดับ
ปัจจุบันนี้นายทหารเสริมกำลังพิเศษก็ยังคงร่วมปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้หมุนเวียนผู้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่จากทุกกองทัพภาค เพื่อเป็นการศึกษา ดูงาน และทำความคุ้นเคยพื้นที่ ตลอดจนให้ผู้ที่มีประสบการณ์ถ่ายทอดและเพิ่มเติมความรู้ความสามารถให้ โดยจัดจากบุคคล ๔ กลุ่ม ดังนี้
๑. บุคคลที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย เช่น นายทหารเสริมฯ ผู้ใหญ่
๒. นายทหารเสริมฯ ประจำ (จัดประจำสวนจิตรลดา ๖ นาย)
๒.๑ กรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ จำนวน ๓ นาย
๒.๒ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๒๑ รักษาพระองค์ จำนวน ๑ นาย
๒.๓ กองทัพภาคที่๒ (คนละ ๒ ปี หรือตามพระราชประสงค์) จำนวน ๒ นาย
๓. จัดจากกองทัพภาคต่างๆ, ตำรวจตระเวนชายแดน, หน่วยนาวิกโยธิน หรือหน่วยอื่นๆ (ตามการจัดสรร)
๔. จัดจากกำลังพลภายในกรมราชองครักษ์
หมายเหตุอาจมีการรับสั่งเพิ่มถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งให้มาถวายงานเพิ่มเติมเป็นครั้งคราว
วิธีการจัด
นายทหารเสริมกำลังพิเศษ (ผู้ใหญ่) ซึ่งเป็นผู้แทนในแต่ละกองทัพภาค ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของหน่วยต่างๆ ในแต่ละกองทัพภาค เพื่อคัดสรรกำลังพลที่มีความเหมาะสมในทุกด้าน แล้วส่งรายชื่อให้กับกรมราชองครักษ์ โดยมีพล.ร.อ.วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ร.น. หน.นายทหารเสริมกำลังพิเศษเป็นผู้พิจารณา
จำนวนการจัดกำลังของหน่วยงานนายทหารเสริมฯ ในแต่ละผลัดจะมีจำนวนต่างกันทั้งนี้ขึ้นกับพระราชกรณียกิจ ในกรณีเสด็จฯ ต่างจังหวัดจะทรงให้เรียกกำลังพลเข้ามาถวายงานในจำนวนที่มากขึ้น ในทางปฏิบัติหน่วยจะพิจารณาให้สามารถจัดเป็นชุดปฏิบัติการให้ได้ ๓ ชุด ชุดละ ๗ นาย รวม ๒๑ นาย ที่เหลือจากนั้นจะเป็นนายทหารเสริมฯ ผู้ใหญ่ ซึ่งต้องรับผิดชอบในเรื่องการบังคับบัญชา หรืออาจจะเรียกตามจำนวนที่ทรงมีพระราชประสงค์ แต่จะมียอดรวมโดยประมาณไม่เกิน ๓๕ นาย ในกรณีประทับที่วังไกลกังวลทั้ง ๒ พระองค์ จะจัดกำลังพลประมาณ ๒๐ นาย, ประทับ ๑ พระองค์ จัด ๗ นาย
การปฏิบัติงานในวงรอบ ๒๔ ชั่วโมง
๑. ๑ ชุดปฏิบัติการ (๗ นาย) เข้าเวรพระตำหนักฯ
๒. ๑ ชุดปฏิบัติการ ไปที่หมายล่วงหน้า
๓. ๑ ชุดปฏิบัติการ ไปในขบวน เป็นรถนำ และ รถตาม
หน้าที่ของนายทหารเสริมกำลังพิเศษ
๑. ถวายอารักขาวงรอบชั้นใน
๒. เข้าเวรถวายความปลอดภัย ณ พระตำหนักฯ
๓. ช่วยงานหน่วยงานต่างๆ เช่น กรส., กรมวัง, มหาดเล็ก ฯลฯ เมื่อจำเป็น
๔. การปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ทรงมีพระราชประสงค์ เช่น ขับร้องเพลงหมู่ ซ้อมการแสดง ฯลฯ
ร.ต.อ. ปิ่นทัพ ปุราเท ขณะฝึกเพื่อปฏิบัติงานทหารเสริมกำลังพิเศษ